ไขความลับ “ไบโอติน” สารบำรุงที่ดีต่อเส้นผม ผิว และเล็บ

Last updated: 6 ธ.ค. 2565  |  1250 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ไขความลับ “ไบโอติน” สารบำรุงที่ดีต่อเส้นผม ผิว และเล็บ

เปิดเคล็ดลับการดูแลสุขภาพเส้นผม เล็บมือ และผิวหนังให้มีความชุ่มชื้น กระจ่างใส มีสารคอลลาเจนหล่อเลี้ยงอยู่เสมอ ด้วยการรับประทานโปรตีนจำพวก ไบโอติน สารอาหารคุณประโยชน์ที่สามารถทานได้ในชีวิตประจำวัน มีคุณค่าในด้านความงามที่ดี แล้วยังช่วยให้ระบบการทำงานภายในร่างกายมีฟังก์ชันที่ดีอีกด้วย แล้วไบโอตินคืออะไร? อาหารที่มีสารไบโอตินมีอะไรบ้าง หากทานไบโอตินน้อยเกินไปหรือมากเกินไป จะเกิดผลเสียแก่ร่างกายอย่างไรบ้าง? ทางวันนี้จะมาอธิบายเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับไบโอตินทั้งหมดในบทความนี้

 

ไบโอติน คืออะไร ?

 

วิตามินบี 7 (Vitamin B7) หรือ ไบโอติน คือ สารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงระบบอวัยวะภายในต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ โดยลักษณะทางกายภาพของวิตามินไบโอติน เป็นวิตามินอยู่ในหมวดหมู่ตระกูล B มีคุณสมบัติละลายกับน้ำได้ดี ช่วยกระตุ้นเซลล์ในร่างกายให้เจริญเติบโต ยิ่งกับเซลล์ที่กำลังถูกสร้างใหม่และกับเซลล์ที่ถูกผลิตตลอดเวลา เช่น เส้นผม เล็บมือ และผิวหนัง เป็นต้น

 

ประโยชน์ของไบโอติน

 

ประโยชน์ของไบโอติน มีสรรพคุณนับไม่ถ้วน เป็นสารอาหารสำคัญที่เสริมสร้างเซลล์ในด้านการเจริญเติบโตของร่างกายมนุษย์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเป็นวิตามินช่วยฟื้นฟูสุขภาพของเส้นผม บำรุงผิวหนังและเล็บให้มีสีผิวสุขภาพดี เพิ่มการทำงานของระบบเผาผลาญภายในร่างกายให้สารอาหารอื่น ๆ แปรสภาพเป็นพลังงานในการหล่อเลี้ยงทั่วร่างกายได้เต็มที่ ทั้งยังรักษาปัญหาโรคอ้วนอย่างโรคเบาหวานให้ระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี 

อีกทั้งไบโอตินเป็นช่วยป้องกันความผิดปกติของระบบประสาท พร้อมเป็นสารอาหารช่วยเติมเต็มให้กับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์อีกด้วย รวมไปถึงเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอย่างเต็มที่ ซึ่งไบโอตินมีกลไกการทำงานอย่างไรบ้าง ในบทความนี้ จึงมาอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมของการทานไบโอตินในหัวข้อถัดไป

 

  ช่วยบำรุงสุขภาพเส้นผม

ไบโอตินบํารุงผมด้วยการกระตุ้นสารเคราติน (Keratin) ธาตุอาหารชนิดโปรตีนสำคัญที่เป็นตัววางโครงสร้างให้กับเส้นผมมีขนาดความหนาที่แข็งแรง ลดโอกาสผมเสีย ผมแห้งแตกปลาย ภาวะหัวล้านอีกด้วย พร้อมเป็นวิตามินบำรุงหนังศีรษะภายในตัว ลดการเกิดรังแคบนหัว ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หนังหัวลอกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ Biotin ประโยชน์ที่ดีอีกด้าน คือ ช่วยลดการกระตุ้นเซลล์เม็ดเม็ดสีหรือเมลานิน (Melanin) ที่เพิ่มโอกาสการเกิดผมหงอกก่อนวัยอันควรลดลง ช่วยให้เส้นผมมีความเงางาม มีน้ำหนักอยู่เสมอ  

 

  ช่วยบำรุงสุขภาพผิวและเล็บ

ไบโอตินสรรพคุณช่วยบำรุงสุขภาพผิวหนังที่มีสภาพแห้งกร้านอับเสบง่าย เช่นภาวะเกิดสิว ผื่น กลาก หรือสะเก็ดเงิน ให้ถูกฟื้นฟูสภาพสีผิวมีน้ำมีนวล ให้เปล่งประกาย มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส กระตุ้นเซลล์ผิวหนังให้ผลิตคอลลาเจนเพื่อปรับโครงสร้างของผิวหนังให้แข็งแรง เพิ่มความเรียบเนียน กระชับผิว ลดรอยย่นส่วนของผิวที่หย่อนยานให้กลับมาเต่งตึงอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งไบโอตินช่วยเสริมสร้างให้โครงสร้างเล็บมีความแข็งแรง ไม่เปราะบาง หรือฉีดขาดได้ง่าย เนื่องจากตัวเล็บใช้โปรตีนเคราตินในการเจริญเติบโตเช่นกัน ทำให้ไบโอตินเป็นสารอาหารในการเพิ่มความเจริญเติบโตของผิวเล็บให้มีสีสุขภาพดี  

 

  ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญ

ไบโอติน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบเผาผลาญภายในร่างกาย โดยเฉพาะระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากสารอาหารจากไบโอตินเป็นตัวกระตุ้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยอาหาร เพิ่มการแตกตัวของอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตกับไขมัน เช่น ข้าว แป้ง ถั่วแห้งบางชนิด ให้แปรสภาพเป็นสารกลูโคส มาเป็นพลังงานหล่อเลี้ยงในระบบอวัยวะส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย และยังเพิ่มประสิทธิภาพของกรดอะมิโนในการย่อยสลายอาหารอีกด้วย นอกจากนี้ไบโอตินช่วยเพิ่มการทำงานของกล้ามเนื้อในกระเพาะลำไส้ให้ทำงานได้ดีขึ้น

 

  โรคเบาหวาน

สารจากไบโอติน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 ประเภทที่ตับไม่สามารถผลิตสารอินซูลินในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมัน ระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ พร้อมช่วยความเข้มข้นของไขมันในเลือด ลดอัตราคอเลสเตอรอลจำพวกไขมันชนิดเลวในเลือดให้เจือจางหายออกไป และลดความเสื่อมของลิ่มเลือดอุดตันทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนของหลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดขาและเท้า รวมไปถึงหลอดเลือดดวงตา

 

  การดูแลก่อนคลอด

เนื่องจากคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์บุตร จะถูกดึงสารอาหารในร่างกายไปหล่อเลี้ยงให้กับตัวอ่อนเป็นปริมาณมาก หากคุณแม่ไม่มีสารอาหารที่เพียงพอ อาจทำให้ลูกในครรภ์เกิดภาวะขาดสารอาหารหรืออาจมีร่างกายพิการตั้งแต่กำเนิดได้ เช่น ภาวะปากเพดานแหว่งมีช่องโหว่ โครงสร้างกระดูกผิดรูป จึงทำให้ไบโอตินเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยเป็นพลังงาน ในการบำรุงร่างกายทั้งแม่และลูกในครรภ์ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เพิ่มประสิทธิภาพให้คุณแม่มีความอยากอาหาร ทั้งช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ของตัวอ่อนให้ได้รับการเจริญเติบโตที่ครบสมบูรณ์ 

 

  ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง

สารอาหารของตัวไบโอติน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาท ให้กระตุ้นการผลิตสารเคมีในสมองมีการทำงานปกติ โดยสร้างเซลล์ใยประสาทไมอีลิน (Myelin Sheath) เป็นสารไขมันสำคัญที่ช่วยป้องกันและควบคุมการทำงานของสมองให้มีฟังก์ชันการทำงานที่ดี ช่วยลดภาวะซึมเศร้า เบื่ออาหาร อาการประสาทหลอน ภาวะนอนไม่หลับให้ผ่อนคลาย และภาวะการแสดงอารมณ์ในด้านจิตใจ รวมไปถึงตัวเซลล์ไมอีลินช่วยการพัฒนาการคลาน การพูด การเดิน การวิ่งอีกด้วย

 

  เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

การรับประทานอาหารที่มีสารไบโอตินสูง จะช่วยกระบวนการสร้างเม็ดเลือดขาวภายในร่างกายที่ขาดหายไป กระตุ้นเซลล์ทุกส่วนให้มีความแข็งแรง มีภูมิต้านทานต่อเชื้อโรค ไวรัส และอนุมูลอิสระ ด้วยโปรตีนจากไบโอตินที่มีกรดอะมิโนจำเป็น สร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันต่อร่างกายให้สมดุล  

 

  ช่วยปกป้องหัวใจ

สารวิตามินจากไบโอติน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดภายในร่างกาย พร้อมจับกลุ่มก้อนลิ่มเลือด ให้หัวใจสูบฉีดปริมาณเลือดที่มีออกซิเจนสูงในการไหลเวียนหล่อเลี้ยงสู่ร่างกายได้ปกติ และยังช่วยเพิ่มสารไลโพโปรตีน (Lipoprotein) ที่มีหน้าที่ขนส่งคอลเลสตอรอลให้มีองค์ประกอบความหนาแน่นสูงในน้ำเลือด รวมไปถึงลดสารไลโปโปรตีนที่มีความหนาแน่นต่ำ ที่เกิดอัตราเสี่ยงสู่โรคที่เกี่ยวกับหัวใจได้ เช่น โรคหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจ โรคลิ้นหัวใจอักเสบ เป็นต้น 

 

ปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน

 

การรับประทานอาหารประเภทไบโอติน ควรได้รับปริมาณตามความเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย จึงได้มีการจำแนกวัยต่าง ๆ ให้ได้รับสารอาหารไบโอตินในปริมาณที่ควรบริโภคใน 5 วัย ดังนี้

 

  • วัยเด็กเล็ก ควรรับประทานไบโอตินในปริมาณ 5-12 ไมโครกรัมต่อวัน

  • วัยเด็กโต ควรรับประทานไบโอตินในปริมาณ 20-25 ไมโครกรัมต่อวัน

  • วัยผู้ใหญ่ ควรรับประทานไบโอตินในปริมาณ 30 ไมโครกรัมต่อวัน

  • ผู้หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรรับประทานไบโอตินในปริมาณ 30-35 ไมโครกรัมต่อวัน แต่ควรปรึกษาชนิดอาหารที่มีสารไบโอตินกับแพทย์ก่อน เพื่อให้คุณภาพน้ำนมและตัวอ่อนในครรภ์ได้รับสารอาหารที่ถูกหลักโภชนาการที่ดีที่สุด

 

อาการภาวะขาดไบโอติน

 

การไม่กินไบโอติน อาจทำให้เกิดผลเสียต่อระบบการทำงานทั่วร่างกาย ทั้งภายในและภายนอกไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ อาจสร้างผลเสียให้ร่างกายภายนอกเกิดภาวะเส้นผมขาดร่วง เกิดภาวะผมหงอกก่อนวัยอันควร ผิวหนังมีความแห้งกร้านอับเสบง่าย สีผิวของเล็บซีดเซียว แตกหัก เปราะบาง ฉีดขาดได้ง่าย  ส่วนภายในร่างกายระบบเผาผลาญจะมีประสิทธิภาพต่ำ กล้ามเนื้อช่วงลำไส้กระเพาะอาหารอ่อนแรง มีความเสี่ยงสูงที่ไขมันในร่างกายติดค้าง อาจตกหล่นสู่ในน้ำเลือดที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจได้ 

 

การได้รับไบโอตินเกินขนาด

 

การกินไบโอตินเป็นสารอาหารที่ดี แม้ตัวโปรตีนชนิดนี้จะละลายในน้ำได้ดี สามารถขับออกได้จากการปัสสาวะ แต่หากบริโภคในปริมาณที่เกินขนาด อาจทำให้ผู้ทานเกิดผลข้างเคียงได้สูง เช่น อาเจียน ภาวะแน่นอก จุกเสียดท้อง หายใจไม่ถนัด หรือเลวร้ายสุดเกิดภาวะผื่นคันทั่วทั้งร่างกาย เพราะปริมาณอาหารที่ทานไป เช่น เนื้อกุ้ง อาจเป็นสารแพ้ต่อร่างกายผู้ทานได้ หากไม่ระมัดระวัง อาจทำเกิดภาวะช็อคอย่างรุนแรง ดังนั้นก่อนทานอาหารที่มีสารไบโอติน ควรปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการโภชนาเสมอ 

 

แหล่งอาหารจากธรรมชาติที่พบไบโอติน

 

อาหารที่อุดมไปด้วยสารไบโอตินสูง พบได้ในพื้นที่ทั่วไปไม่ว่าจะตามร้านอาหาร ซุปเปอร์มาเก็ต และพื้นที่ขายของชำ ให้ผู้ทานนำมาประกอบอาหารเองหรือกินได้ตามร้าน ได้แก่

  • โปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ไข่แดง ชีส ยีสต์ และเครื่องในสัตว์

  • ธัญพืช เช่น ถั่วชนิดแห้ง ถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนต์ วอลนัท และถั่วลิสง
    เช่น เห็ด กะหล่ำดอก มันเทศ

  • ผลไม้  เช่น กล้วย แอปเปิ้ล มะเขือเทศ 
    แต่ถึงอย่างนั้นการรับประทานไบโอตินควรบริโภคในอุณหภูมิความร้อนที่พอดี ไม่ควรทานในอุณหภูมิที่ร้อนมากจนเกินไป เพราะความร้อนอาจละลายสารโปรตีนของไบโอตินได้

 

ไบโอตินกินแบบไหนดี ?

 

 

“Biotin” ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมแต่ละช่วงวัยและต่อวัน หากทานน้อยเกินไปอาจทำให้ระบบการทำงานภายในร่างกายมีปัญหา แต่หากทานในปริมาณเกินต่อวัน อาจทำให้ผู้ทานเกิดการจุกเสียดแน่นท้อง ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ หากลูกค้าท่านไหนสนการทำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสารโปรตีนไบโอตินสูง สามารถซื้อสินค้า Hair & Nail Brightening Skin ที่ช่วยเรื่องการฟื้นฟูสภาพเส้นผม ให้เกิดความเงางาม มีน้ำหนัก ลดภาวะผมร่วง ร่วมกับปรับสภาพเล็บมือให้แข็งแรง มีสีเล็บสุขภาพดี พร้อมช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูกระจ่างใส ด้วยสารสกัดจากน้ำสตรอว์เบอร์รี และสารสกัดจากคอลลาเจน HACP จากนวัตกรรมของประเทศญี่ปุ่น ช่วยกระตุ้นกรดกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) ให้ผิวมีความชุ่มชื้นสูง

 

หากสนใจผลิตอาหารเสริมที่มีส่วนผสมโปรตีนไบโอติน เราเป็นโรงงานอาหารเสริมที่พร้อมสร้างแบรนด์ และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการผลิตอาหารเสริมไบโอตินในระดับมืออาชีพ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้