เลือกกินวิตามินให้ได้ประสิทธิภาพควรกินตอนไหนดีที่สุด

คุณรู้หรือไม่ว่า ช่วงเวลาที่คุณกินวิตามินนั้นมีผลต่อประสิทธิภาพของวิตามิน และต่อร่างกายคุณอย่างไร ซึ่งวิตามินแต่ล่ะชนิดมีช่วงเวลาการกินที่เหมาะสมต่างกัน หากคุณอยากให้วิตามินที่คุณทานเข้าไปนั้นมีประสิทธิภาพสูงสุดคุณจำเป็นจะต้องรู้ว่าช่วงเวลาไหนกินวิตามินตอนไหนดีที่สุด เพื่อให้วิตามินที่คุณทานไปไม่สูญเปล่า และร่างกายของคุณก็สามารถนำวิตามินเหล่านั้นไปบำรุงร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

วันนี้เรามีคำตอบให้ว่า กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด พร้อมกับคำแนะนำว่าควรกินวิตามินคู่กับอะไร และควรหลีกเลี่ยงการกินวิตามินคู่กับอาหารประเภทไหน สำหรับคนที่กำลังทานวิตามิน หรือคนที่กำลังจะเลือกทานวิตามินชนิดใดชนิดหนึ่ง จะได้มีความเข้าใจว่าควรกินวิตามินตอนไหนดีที่สุดที่ร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามินได้ดี 

วิตามินซีควรกินตอนไหนให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

เริ่มต้นด้วยวิตามินยอดฮิตที่ใครหลายคนก็รู้จัก และกำลังทานอยู่อย่างวิตามินซี วิตามินซีมีคุณสมบัติในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย และมีส่วนช่วยในเรื่องของผิวพรรณ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การรับประทานวิตามินครั้งละ 1,000 - 1,500 กรัม ร่างกายของเราจะสามารถดูดซึมวิตามินได้เพียง 50% เท่านั้น แล้วกินวิตามินตอนไหนดีที่สุด ? การรับประทานวิตามินซีควรแบ่งทานปริมาณกรัมที่น้อย ๆ แต่แบ่งทานเป็นหลายครั้งต่อวัน จะช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าการทานครั้งเดียวทีละมาก ๆ โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทานวิตามินซี คือการทานพร้อมอาหารมื้อเช้า และอาหารมื้อเย็น ที่สำคัญอย่าลืมทานพร้อมกับสารอาหารอื่น ๆ ที่ร่างกายคุณต้องการด้วย

ช่วงเวลาไหนเหมาะกับการกินวิตามินบี 

วิตามินบีรวม มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกายและระบบประสาท ถึงแม้วิตามินบีจะได้มาจากแหล่งอาหารทั่วไป อย่างเช่น ธัญพืช เครื่องในสัตว์ หรือพวกเนื้อปลาทะเล แต่ในปัจจุบันมีคนหันมารับประทานอาหารเสริมประเภทวิตามินบีเพิ่มขึ้น เพราะวิตามินบีเป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการ แต่บางครั้งเราได้รับสารอาหารจำพวกวิตามินบีไม่เพียงพอ ดังนั้นหากได้รับวิตามินบีในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย จะช่วยบำรุงให้ระบบประสาท และผิวพรรณดีขึ้น

สำหรับวิธีกินวิตามินบีที่ดี คือการทานพร้อมกับอาหารหรือหลังอาหารก็ได้ จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดี และหากใครที่รับประทานวิตามินซีอยู่แล้ว ก็สามารถทานวิตามินบีร่วมกับวิตามินซีก็ได้ เพราะจะช่วยให้วิตามินมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อยากให้วิตามินดี 3 ดูดซึมได้ดีควรกินตอนไหน ?

สำหรับใครที่ทานวิตามินดี 3 จะมีส่วนช่วยให้กระดูกของคุณแข็งแรง และยังช่วยป้องกันโรคกระดูกเปราะด้วย ที่จริงแล้ววิตามินดี 3 เป็นวิตามินที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้เองโดยการถูกกระตุ้นจากรังสี UVB ในแสงแดด

วิตามินดี 3 ไม่ได้มีดีเรื่องบำรุงกระดูกเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยในเรื่องเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเครียด ช่วยในการนอนหลับ ฟื้นฟูผิว และลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งด้วย คนที่ต้องการวิตามินดีส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ผิวไม่ค่อยโดนแสงแดด ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีน้ำหนักเกิน เป็นต้น เนื่องจากวิตามินดี 3 เป็นวิตามินที่ละลายในไขมันได้ดี จึงควรรับประทานระหว่างมื้ออาหาร หรือหลังอาหารเช้าและอาหารกลางวัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินดีได้ดีที่สุด

อยากได้ประโยชน์จากวิตามินอีควรกินอย่างไร ?

วิตามินอีเป็นวิตามินที่ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ บำรุงเส้นผมที่แห้งเสีย รวมทั้งซ่อมแซมผิวและเล็บได้ อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการเสื่อมสภาพของผิวช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ซึ่งวิตามินอีเป็นวิตามินที่ร่างกายของเราไม่สามารถผลิตเองได้ ดังนั้นเราจึงต้องทานอาหารจำพวก ถั่ว เมล็ดพืช น้ำมันพืช หรือผักบางชนิด เป็นต้น แต่ถ้าหากใครกังวลว่าจะได้รับวิตามินอีไม่เพียงพอก็สามารถเลือกทานอาหารเสริมที่มีวิตามินอีได้

กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด หากคุณอยากให้วิตามินอีสามารถดูดซึมได้ดีที่สุด คุณควรทานวิตามินอีหลังมื้ออาหารทันที แต่ถ้าหากคุณต้องรับประทานวิตามินอีแค่หนึ่งครั้งในหนึ่งวันให้เลือกทานหลังอาหารมื้อใหญ่ที่สุดที่คุณทานในวันนั้น เพราะว่าวิตามินอีสามารถละลายในไขมันได้ดีจึงควรทานหลังอาหาร แต่อย่างไรก็ตามคุณควรทานวิตามินอีในปริมาณที่เหมาะสมไม่เช่นนั้นอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงกับร่างกายได้ 

กินวิตามินเคอย่างไรให้ปลอดภัย ?

วิตามินเคพบได้ในผักใบเขียว ไข่แดง นม เนย น้ำมันมะกอก มะเขือเทศ เป็นต้น ซึ่งวิตามินเคนี้จะมีส่วนช่วยให้เลือดแข็งตัวง่ายขึ้น ช่วยบรรเทาอาการประจำเดือนมามากกว่าปกติ ช่วยในกระบวนการสร้างลิ่มเลือด และช่วยป้องกันกระดูกเปราะบาง

วิตามินเคจะมีประสิทธิภาพดีถ้าหากทานพร้อมมื้ออาหาร โดยไม่ควรรับประทานเกิน 80 ไมโครกรัมต่อวัน และถ้าหากใครทานวิตามินอีในปริมาณที่สูงจะทำให้การดูดซึมวิตามินเคไม่ดี อย่างไรก็ตามการรับประทานวิตามินเคควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

วิตามินเอจะดีต่อร่างกายต้องกินอย่างไร ?

สรรพคุณของวิตามินเอที่ทุกคนรู้จักคือ มีส่วนช่วยในการมองเห็น บำรุงสายตา แต่รู้หรือไม่ว่าวิตามินเอยังมีส่วนช่วยในเรื่องของผิวพรรณ และยังจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของกระดูกด้วย หากใครที่ต้องการรับประทานวิตามินเอควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ซึ่งปริมาณที่รับประทานต่อวันไม่ควรเกิน 800 ไมโครกรัม เนื่องจากวิตามินเอเป็นวิตามินจำพวกละลายในไขมันได้ดี ดังนั้นหากถามว่ากินวิตามินตอนไหนดีที่สุด เราจึงขอแนะนำว่าควรทานพร้อมกับมื้ออาหารเพื่อให้ดูดซึมได้ดี สามารถทานได้พร้อมกับอาหารทุกมื้อไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า มื้อกลางวัน หรือมื้อเย็น ควรทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมันดี เช่น ปลาทูน่า อะโวคาโด หรือน้ำมันมะกอก เป็นต้น 

ควรกินวิตามินรวมตอนไหนให้ได้ประโยชน์สูงสุด

วิตามินรวมเป็นวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของร่างกายและสมอง ทำให้ร่างกายมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ทำงานหนัก หรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เพราะวิตามินรวมจะช่วยลดอาการอ่อนเพลีย ทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น 

กินวิตามินตอนไหนดีที่สุดสำหรับวิตามินรวม คือการรับประทานคู่พร้อมกับมื้ออาหารเช้า กลางวัน หรือไม่ก็เย็น จะทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินรวมได้ดี

โคเอนไซม์ Q10 เหมาะกับกินช่วงเวลาไหนดีที่สุด ?

โดยทั่วไปแล้วร่างกายของเราจะสามารถสร้างโคเอนไซม์ Q10 ได้เองจนถึงอายุ 20 ปีหลังจากนั้นก็จะลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งโคเอนไซม์ Q10 จะมีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจ สมอง กล้ามเนื้อ และช่วยเพิ่มบำรุงเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย

โคเอนไซม์ Q10 ควรรับประทานพร้อมกับมื้ออาหารเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานของวิตามิน และควรทานไม่เกิน 100 - 300 mg ต่อวัน ควรแบ่งกินเป็น 2 มื้ออาหารและทานคู่กับอาหารจำพวกที่มีไขมันดี แนะนำให้เลือกทานแบบแคปซูลนิ่ม

อยากให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจน ควรกินคอลลาเจนอย่างไร ? 

คอลลาเจนเป็นที่รู้จักอย่างมากในเรื่องช่วยชะลอความแก่ และเสริมสร้างกระดูก นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการบำรุงผม และเล็บด้วย โดยคอลลาเจนแบบผงจะมีประสิทธิภาพในการดูดซึมได้ดีกว่าแบบเม็ด คอลลาเจนที่เหมาะกับการรับประทานคือคอลลาเจนแบบไดเปปไทด์ และไตรเปปไทด์ เพราะว่าเป็นคอลลาเจนที่มีโมเลกุลเล็กจึงทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีและนำไปใช้ได้อย่างเต็มที่

ช่วงเวลาที่รับประทานคอลลาเจนแล้วสามารถดูดซึมได้ดีที่สุดคือ ช่วงเวลาที่ท้องว่างในช่วงเช้า หรือช่วงกลางคืนก็ได้ ควรทานคู่กับวิตามินซีเพื่อให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวของคุณนุ่มลื่นและกระจ่างใส

Grape Seed จะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อคุณกินช่วงเวลาไหน ?

Grape Seed เป็นสารสกัดที่ได้มาจากเมล็ดขององุ่น ซึ่งจะมีสรรพคุณในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวดูกระชับ เต่งตึง โดยการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์คอลลาจีเนส ที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร และยังมีส่วนช่วยในการลดจุดด่างดำ ป้องกันผิวจากแสงแดดอีกด้วย

เนื่องจาก Grape Seed มีสารสกัด OPCs ที่สามารถจับกับโปรตีนได้ ดังนั้นการรับประทาน Grape Seed ที่แนะนำคือ ทานในขณะที่ท้องว่างหรือหลังอาหารประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้สาร OPCs จับตัวกับโปรตีนที่จะส่งผลให้ร่างกายดูดซึมได้น้อยลง หากทานคู่กับคอลลาเจนก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นในด้านการดูแลผิวพรรณ  

กินอะมิโน ซิงค์ อย่างไรให้มีประสิทธิภาพดีที่สุด ?

Zinc หรือ Zinc Amino มีส่วนสำคัญในการช่วยลดสิว โดยจะช่วยลดการอักเสบ ยับยั้งเชื้อสิว ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมันทำให้หน้าไม่มัน หากทานรวมกับวิตามินบี 6 จะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของซิงค์ได้

อะมิโน ซิงค์ จะมีประสิทธิภาพดีหากทานในช่วงเวลาที่ท้องว่าง แต่ถ้าหากทานช่วงที่ท้องว่างแล้วรู้สึกแสบท้องก็สามารถเปลี่ยนมาทานพร้อมมื้ออาหารได้ ควรหลีกเลี่ยงการทานอะมิโนซิงค์กับอาหารที่มีไฟเตทสูง อย่างเช่น พืชตระกูลถั่ว งา และแอลกอฮอล์ เป็นต้น และหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีธาตุเหล็กพร้อมกันกับอะมิโนซิงค์ เพราะจะขัดขวางการทำงานของซิงค์

ช่วงเวลาไหนที่ช่วยให้คุณกินน้ำมันปลาได้ดี 

น้ำมันปลา คือ สารสกัดที่ได้จากไขมัน เนื้อหนัง เนื้อเยื่อของปลา ซึ่งจะมี DHA และ โอเมก้า 3 มีประโยชน์ช่วยบำรุงสมอง ทำให้มีความจำที่ดีขึ้น ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อม และยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดอักเสบด้วย ที่จริงแล้วน้ำมันปลาสามารถรับประทานได้ทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะตอนท้องว่าง หรือพร้อมมื้ออาหาร แต่ถ้าหากใครไม่ชอบกลิ่นคาวของน้ำมันปลา เราแนะนำให้ทานพร้อมกับมื้ออาหาร น้ำมันปลาไม่ควรทานคู่กับยาต้านการแข็งตัวของเลือด อย่างเช่น แอสไพริน วาร์ฟาริน หรือโคลพิโดเกล และไม่ควรทานกับอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงด้วย

“วิตามิน” กินตอนไหนก็ได้ประโยชน์

กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด ? คำตอบคือไม่ตายตัว เนื่องจากวิตามิน อาหารเสริม หรือแร่ธาตุแต่ละตัวมีกระบวนการดูดซึมและการนำไปใช้ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นผู้ที่สนใจดูแลสุขภาพด้วยการทานวิตามิน แร่ธาตุ หรืออาหารเสริม ควรศึกษาข้อมูลสรรพคุณ รวมถึงวิธีการและช่วงเวลาที่ควรรับประทานด้วย เพื่อให้การทานวิตามินของคุณได้ประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะเป็นได้ 

     ทาง Derma Health เป็น โรงงานผลิตอาหารเสริมวิตามิน ที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์การผลิตที่ทันสมัยได้มาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับ เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่อยากมีธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเป็นของตนเอง คุณสามารถติดต่อเข้ามาปรึกษากับทางเราได้ฟรีก่อนเริ่มตัดสินใจสร้างแบรนด์ของตน