Last updated: 23 พ.ย. 2565 | 7474 จำนวนผู้เข้าชม |
หากเป็นเมื่อก่อนการสร้างแบรนด์แค่ได้ยินก็รู้สึกยากแล้ว แต่เมื่อเทียบกับปัจจุบันการสร้างแบรนด์ดูจะเป็นอะไรที่พอจะเข้าถึงได้ง่ายกว่าสมัยก่อน โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์อาหารเสริม เพราะปัจจุบันมีเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่บางคนอาจจะไม่รู้ว่าการสร้างแบรนด์อาหารเสริมลงทุนเท่าไหร่ และทำอย่างไรให้อาหารเสริมของเรานั้นได้มาตรฐาน วันนี้เรารวบรวมข้อมูลที่ละเอียดสุด ๆ มาให้คุณแล้ว!
อย่างแรกที่เราจะต้องเตรียมเมื่อจะลงทุนทำแบรนด์อาหารเสริมแน่นอนว่าต้องเป็นเงินทุน เพราะเงินทุนนั้นส่งผลอย่างมากในการคำนวณราคาของอาหารเสริม ทั้งราคาตั้งต้นและกำไรที่จะได้รับ รวมถึงจำนวนผลิตด้วย เมื่อเรามีจำนวนเงินทุนในหัวคร่าว ๆ แล้ว เราก็มาดูกันว่าเงินทุนที่คุณมี สามารถทำอะไรได้บ้าง
โดยค่าใช้จ่ายในการลงทุนผลิตอาหารเสริม จะแบ่งได้ตามนี้
อาหารเสริมจะแบ่งเป็นประเภทตามการใช้งานและรูปร่างโดยจะมี
ในบางรายการ อาหารเสริมชนิดเม็ดและแคปซูลอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการผลิตเช่น ค่าแบบ หากคุณต้องการพิมพ์ตัวอักษรหรือสลักชื่อแบรนด์ลงบนตัวอาหารเสริมของคุณ นอกจากนี้อาจจะมีค่าอื่น ๆ เช่น ค่าเคลือบ ซึ่งบางโรงงานอาจจะเคลือบสารกันชื้นให้ แต่บางโรงงานอาจจะไม่ได้เคลือบให้ การเคลือบเม็ดสีก็เช่นกัน ทั้งหมดนี้จะมีขั้นต่ำการผลิตอยู่ที่ 100,000 เม็ด และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจะเฉลี่ยอยู่ที่ 10,000-30,000 บาท
บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารเสริมเป็นอีกตัวที่จะช่วยส่งเสริมให้อาหารเสริมของเรามีความน่าซื้อและบรรจุภัณฑ์ที่ดีก็จะช่วยให้สินค้ามีคุณภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะนอกจากจะสวยงามแล้วยังช่วยป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่อาจปนเปื้อนในอาหารเสริมของเราในภายหลัง โดยจะแบ่งตามนี้
บรรจุภัณฑ์สำหรับตัวอาหารเสริม
แผงบรรจุอาหารเสริมชนิดเม็ดหรือแคปซูล ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3-10 บาทต่อแผง และหากต้องการพิมพ์ฟอยล์หลังแผงก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอยู่ที่ 3,000-5,000 บาท เป็นค่าแม่แบบ
ซองบรรจุอาหารเสริมชนิดผง ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ม้วนละ 1,200-1,800 บาท ขั้นต่ำอยู่ที่ 30 - 100 ม้วน ซึ่งจะเป็นซองแบบสกรีน อีกทั้งยังมีค่าแม่แบบและค่าออกแบบเฉลี่ยอยู่ที่ 3,000-40,000 บาท ขึ้นอยู่กับแบบที่เจ้าของแบรนด์เลือก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายก็สามารถเลือกแบบไม่สกรีนได้ เพียงแต่จะเลือกสีและแบบของซองบรรจุไม่ได้เท่านั้น
บรรจุภัณฑ์สำหรับใส่ตัวอาหารเสริม
กล่องสำหรับใส่อาหารเสริม ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 8-25 บาท ต่อกล่อง ขั้นต่ำในการผลิตจะอยู่ที่ 1,000 กล่อง ซึ่งจะไม่รวมค่าออกแบบที่เฉลี่ยเริ่มต้นที่ 3,000-6,000 บาท และค่าแม่แบบราคาเริ่มต้นที่ 4,000-20,000 บาท
ขวดหรือกระปุกสำหรับใส่อาหารเสริม ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 5-20 บาท ต่อขวดหรือกระปุก ซึ่งจำนวนการผลิตขั้นต่ำจะอยู่ที่ 3,000-10,000 ขวดหรือกระปุก โดยจะมีค่าฉลากรอบขวดหรือกระปุกเริ่มต้นเฉลี่ยที่ 5,000-20,000 บาท ค่าออกแบบฉลากอีกประมาณ 2,000-3,000 บาท รวมถึงค่าของจุกจิกเล็กน้อยอย่างอื่น อาทิเช่น ฟองน้ำกันกระแทก หรือซีลฝาขวด เป็นต้น
เงินทุนด้านการดำเนินการก็เป็นอีกสิ่งที่เจ้าของแบรนด์อาหารเสริมควรคำนึงถึง โดยจะแบ่งเป็น 2 อย่างหลัก ๆ ดังต่อไปนี้ ซึ่งเงินส่วนนี้ควรเตรียมเงินขั้นต่ำไว้ที่ประมาณ 100,000 บาท
นอกจากจะปฏิบัติตามข้อกำหนดได้แล้ว การขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ ยังช่วยให้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของเราน่าเชื่อและตรวจสอบได้ ซึ่งการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ ที่สำคัญๆ ก็จะมีดังนี้
การขึ้นทะเบียนกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
การจดทะเบียนขอเครื่องหมายฮาลาล เพราะหากแบรนด์ของคุณจำหน่ายให้กับชาวมุสลิมก็จะต้องมีการขอตราฮาลาลด้วย
อีกหนึ่งปัจจัยที่เจ้าของแบรนด์อาจคิดไม่ถึง ว่าค่าขนส่งนั้นก็เป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการส่งของจากโรงงานมาที่บริษัท หรือการที่จะต้องส่งของไปยังตัวแทนจำหน่ายต่างๆ เพราะฉะนั้นควรคำนวณส่วนนี้ลงไปด้วย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันการทำตลาดเป็นเรื่องจำเป็น เพราะนอกจากจะทำให้แบรนด์ดูมีความน่าเชื่อถือแล้ว ยังทำให้แบรนด์เป็นที่สนใจ ติดตลาดได้ง่าย เป็นการลงทุนที่จะให้ผลตอบแทนในระยะยาว เงินลงทุนสำหรับการตลาดจึงมีส่วนสำคัญอย่างมาก ควรเตรียมเงินขั้นต่ำไว้ที่ประมาณ 300,000-500,000 บาท ซึ่งจะไม่รวมค่าใช้จ่ายสำหรับสถานที่และค่าตกแต่งสถานที่ สำหรับค่าใช้จ่ายด้านการตลาด หลัก ๆ จะมีค่าใช้จ่ายตามนี้
การประชาสัมพันธ์
การส่งเสริมการตลาด
การออกแบบโฆษณา
การจัดทำสื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อส่งเสริมการขาย
การจัดทำสื่อออนไลน์
เงินทุนสำหรับปัจจัยอื่น ๆ คือค่าสถานที่ซึ่งอาจจะเป็นค่าเช่า และถึงแม้เจ้าของแบรนด์จะมีสถานที่สำหรับตั้งบริษัทอยู่แล้ว แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการตกแต่งสถานที่ หรือรีโนเวทอีกต่างหาก ค่าจดทะเบียนบริษัท และเมื่อตั้งบริษัทแล้วค่าจ้างพนักงานก็ควรรวมอยู่ในส่วนนี้อีกด้วย ซึ่งราคาอาจจะขึ้นอยู่กับขนาดของธุรกิจ เจ้าของแบรนด์จะต้องประเมินจากรูปแบบของธุรกิจที่ต้องการสร้าง
เงินทุนสำรองทำหน้าที่เหมือนหลักประกันให้ธุรกิจ เพราะบางครั้งอาจมีปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้อย่างเช่น การผันผวนของเศรษฐกิจ ภาวะเงินฝืด เงินเฟ้อ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น การขาดแคลนวัตถุดิบ หรือแม้กระทั่งโรคระบาด สิ่งเหล่านี้เราไม่สามารถควบคุมได้
ดังนั้นการมีเงินทุนสำรองจะช่วยให้เราก้าวข้ามวิกฤติจากเกิดปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้นั่นเอง การคำนวณเงินสำรองควรคิดจาก ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน x ระยะเวลา 6 เดือน ยกตัวอย่างเช่น
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของการทำแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอยู่ที่ 50,000 บาท
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน x ระยะเวลา 6 เดือน = 50,000 x 6 = 300,000 บาท
ทั้งนี้เงินทุนสำรองอาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ แต่การที่มีเงินทุนสำรองไว้ จะเป็นการดีที่สุดสำหรับธุรกิจของเรา
ตอบกันไปแล้วสำหรับคำถามเรื่องทําแบรนด์อาหารเสริมลงทุนเท่าไหร่ มาถึงคำถามสำคัญอย่าง ทําแบรนด์อาหารเสริมอย่างไรให้ได้กำไรดีกันบ้างดีกว่า เพราะการตั้งราคาและการคำนวณที่ดีจะช่วยให้เจ้าของแบรนด์ได้กำไรอย่างมาก
สูตรการคำนวณนั้นควรคิดจาก ต้นทุนการผลิตในแต่ละล็อต และเมื่อได้ราคาต้นทุนที่เราจะต้องจ่ายแล้วก็ควรจะคำนวณราคาเป็นหน่วย ‘เท่า’ ของราคาทุน ไม่ว่าจะเป็น 2 เท่า 5 เท่า หรือ 10 เท่า
ยกตัวอย่างเช่นราคาต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 850,000 บาท ราคาขายควรคำนวณจากปัจจัยต่อไปนี้
จะเท่ากับ 1,700,000 + 850,000 + 850,000 + 850,000 = 4,250,000 บาท หากผลิตอาหารเสริมจำนวน 10,000 กล่อง
นำ 4,250,000 หารด้วย 10,000 ก็จะเท่ากับ 425 บาท กำหนดราคาขายปลีกอาจจะอยู่ที่ 450 บาท และราคาขายส่งอาจจะอยู่ที่ 400 บาท ขึ้นอยู่กับนโยบายบริษัทหรือแผนการตลาดของแบรนด์
สรุปแล้ว การสร้างแบรนด์อาหารเสริมลงทุนเท่าไหร่ ก็ควรคำนวณจากต้นทุนสำหรับผลิตอาหารเสริม ต้นทุนการดำเนินการ ต้นทุนการตลาด ต้นทุนสำหรับปัจจัยอื่นๆ และเงินทุนสำรอง หากคำนวณครอบคลุมจากเนื้อหาทั้งหมดในบทความแล้ว คุณก็จะสามารถสร้างแบรนด์อาหารเสริมที่ประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
โดยราคาลงทุนสำหรับการทำแบรนด์อาหารเสริมอาจจะเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 1,000,000 บาท และถ้าหากอ่านบทความนี้จบแล้วคุณยังไม่มั่นใจสามารถอ่านต่อได้ที่ สร้างแบรนด์อาหารเสริม หรือปรึกษาเราก่อน ได้ที่ช่องทางติดต่อด้านล่างนี้ค่ะ
13 พ.ค. 2567
2 พ.ค. 2567
6 พ.ค. 2567
13 พ.ค. 2567