ประโยชน์ของ FOS (Fructo Oligosaccharides)

Last updated: 9 ต.ค. 2566  |  15489 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ประโยชน์ของ FOS (Fructo Oligosaccharides)

          ฟรุกโต โอลิโกแซคคาไรด์ (fructo-oligosaccharide) หรือ โอลิโกฟรักโทส (oligofructose) เป็นโอลิโกแซคคาไรด์ (oligosaccharide) ซึ่งใช้เป็นสารให้ความหวาน (sweetener) ทดแทนน้ำตาล (sugar substitute) มีรสชาติหมือนกับน้ำตาล ใช้เป็นสารให้ความหวานที่ให้พลังงานต่ำกว่าน้ำตาลทราย (relative sweetness 30-50% เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำตาล sucrose) มีแคลอรีต่ำ ทำหน้าที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์ในร่างกายช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เป็นไฟเบอร์ที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ จึงช่วยเพิ่มน้ำหนักของอุจจาระและทำให้อุจจาระนิ่มได้ ในปัจจุบันผู้คนนิยมนำ FOS มาใช้เป็นอาหารเสริมสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักและอาหารเสริมเพิ่มการขับถ่ายจำนวนมาก

 

FOS (Fructo Oligosaccharides) คืออะไร ?

 

           ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Fructo Oligosaccharide : FOS) บางครั้งเรียกว่า oligofructose หรือ oligofructan เป็น oligosaccharide fructans เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งมีโมเลกุลขนาดกลาง (3-9 โมเลกุล) แคลอรีต่ำประมาณ 1-1.5 กิโลแคลอรี มีความหวานประมาณ 30% ของน้ำตาลทราย โดยฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ เป็นคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถย่อยได้ มีคุณสมบัติคล้ายเส้นใยอาหาร (fiber-like substances) และมีคุณสมบัติคล้ายกับ soluble fiber คือสามารถละลายน้ำได้ แต่หลังจากละลายน้ำแล้วไม่มีความหนืด ร่างกายย่อยไม่ได้ แต่เมื่อ FOS เคลื่อนที่ไปจนถึงลำไส้ใหญ่จะสามารถกลายเป็นแหล่งอาหารให้กับจุลินทรีย์ชนิดดีต่างๆที่อาศัยอยู่ในลำไส้ในขบวนการที่ไม่ต้องใช้ออกซิเจน โดย FOS เป็นสารตั้งต้นที่ดีมากในขบวนการย่อยของแบคทีเรีย เมื่อย่อยแล้วจะทำให้ได้กรดไขมันที่มีสายสั้นที่เรียกว่า short chain fatty acid (SCFA) กรดแลคติก แก๊สอื่น ๆ และพลังงาน ดังนั้น FOS หรือ Fructo Oligosaccharide จึงจัดเป็นใยอาหารประเภท Prebiotic อีกกลุ่มหนึ่งที่ดีต่อสุขภาพ จึงเริ่มมีการนำ FOS มาเติมหรือเสริมในอาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วย และถูกนำมาใช้สำหรับใส่ในอาหารเสริม เพื่อช่วยในเรื่องดีท็อกซ์และช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ อีกทั้งยังให้แคลอรีต่ำเหมาะสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่

 

ประโยชน์ต่อร่างกายของ FOS (Fructo Oligosaccharides)

 

 ชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่ร่างกาย


เนื่องจาก FOS คือไฟเบอร์ชนิดหนึ่ง ดังนั้นการทาน FOS ร่วมกับมื้ออาหารจะช่วยให้รู้สึกอิ่มได้เร็วขึ้น และอยู่ท้องได้นาน อีกทั้งคุณสมบัติในการเป็นไฟเบอร์ของตัว FOS ยังช่วยในการชะลอการดูดซึมน้ำตาลในร่างกายได้ จึงช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้

 

 มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่


เนื่องจาก FOS มีส่วนช่วยกระตุ้นการเจริญและการทำงานของจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ในร่างกายได้ ทำให้ลำไส้ทำงานได้ดี ช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ สามารถถูกย่อยโดยแบคทีเรียในลําไส้ใหญ่เกิดแก๊สในอุจจาระจากการย่อยได้มาก จึงอาจเพิ่มนําหนักและปริมาณอุจจาระได้ โดยมีการศึกษาผลของการกิน FOS ในกลุ่มคนสุขภาพดี ปริมาณ 10 กรัม/วัน เป็นระยะเวลา 7 วัน ต่อปริมาณจุลินทรีย์ชนิดดีที่เก็บจากตัวอย่างอุจจาระของผู้ทดสอบ  เปรียบเทียบกับวันแรกที่รับประทาน โดยผลการศึกษาสรุปได้ว่า FOS มีผลในการช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ชนิดดีมากขึ้นในระบบทางเดินอาหาร มีส่วนช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ช่วยให้อุจจาระนิ่มขึ้น และลดระยะเวลาของอุจจาระในลำไส้ใหญ่ ทำให้ลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้

 

  ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

 

FOS สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโต และการทำงานของจุลินทรีย์ในร่างกายได้ จึงส่งผลให้กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ โดยมีผลต่อการทำหน้าที่ของเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับภูมิต้านทานในลำไส้ มีผลเพิ่มความแข็งแรงให้เยื่อบุผิวของลำไส้ สามารถป้องกันการติดเชื้อในลำไส้ได้ดี และทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายสูงขึ้น

 

  ควบคุมระดับของคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด

 

FOS สามารถลดระดับของ LDL-cholesterol ในเลือดได้ โดยกลไกที่เป็นไปได้คือ อาจเกิดจาก SCFA ที่ได้จากการย่อยโดยแบคทีเรียในลําไส้ โดยเฉพาะ propionate เมื่อถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายจะยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ HMG CoA reductase ทำให้ยับยังการสร้าง cholesterol ซึ่งทำให้ระดับ cholesterol ในเลือดลดลงได้ โดยมีการศึกษาทำการทดลองในผู้ป่วยเบาหวาน โดยการให้รับประทาน FOS ปริมาณ 8 กรัม 2 สัปดาห์ติดต่อกัน ซึ่งผลปรากฏว่า FOS ช่วยลดระดับน้ำตาลหลังอดอาหารในผู้ป่วยเบาหวานได้ จึงทำให้ FOS มักถูกนำมาใช้เป็นอาหารเสริมสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักได้นั่นเอง

 

  เพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ 


เนื่องจาก FOS เป็น prebiotic ทำหน้าที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์ จึงช่วยไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในลำไส้ เช่น Bifidobacteria และ Lactobacilli ทำให้เกิดการผลิตกรดแลคติกซึ่งทำให้ลําไส้ใหญ่มีความเป็นกรดมากขึ้น จึงมีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ก่อโรคซึ่ง ได้แก่ Clostridium (เช่น C.perfringens, C. difficile), Bacteroides, Coliforms (เช่น E. coli) ซึ่งจุลินทรีย์ก่อโรคเหล่านี้สามารถทำลายเยื่อบุลําไส้ใหญ่ด้วยตัวมันเองหรือจากการปล่อยสาร toxin ออกมาทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดและลดอาการท้องเสียได้

 

การบริโภค FOS (Fructo Oligosaccharides) 


          ในผู้ใหญ่แนะนำให้รับประทานวันละ 5-10 กรัม เพื่อลดปัญหาเรื่องก๊าซที่เกิดขึ้นจากการหมักในบริเวณลำไส้

 

 แหล่งอาหารที่พบFOS (Fructo Oligosaccharides)


           FOS เป็นพรีไบโอติกที่พบได้ในพืชในธรรมชาติ เช่น แก่นตะวัน ข้าวสาลี ข้าวไรย์ หัวหอม แอสปารากัส Artichoke กล้วย ถั่วเหลือง ต้นกระเทียม มะเขือเทศ น้ำผึ้ง เมล็ดธัญพืชบางชนิดและกลุ่มพืชหัว

 

โครงสร้างของและคุณสมบัติ FOS (Fructo Oligosaccharides) 

 

 

 

           โมเลกุลของ oligofructose ซึ่งเกิดจากน้ำตาลฟรักโทส (fructose) น้อยกว่า 10 โมเลกุล โดยที่โมเลกุลที่ปลายสุดด้านหนึ่งเป็นน้ำตาลกลูโคส (glucose)

            โครงสร้างโมเลกุลของ oligofructose เหมือนกับอินูลิน (inulin) ซึ่งเป็น polysaccharide แต่ inulin เป็นพอลิเมอร์ที่มีสายยาวมากกว่า ไม่มีรสหวาน และละลายในน้ำได้น้อย ขณะที่ oligofructose มีขนาดโมเลกุลเล็กกว่ามากและมีรสชาติหวาน อีกทั้งยังมีคุณสมบัติเป็นไฟเบอร์ที่ละลายในน้ำได้ ช่วยเพิ่มความหนืดให้กับผลิตภัณฑ์ ผู้คนจึงนิยมทำเป็นอาหารเสริมชงดื่ม และมักถูกนำไปใช้เป็นสารทดแทนความหวานในผลิตภัณฑ์ช็อคโกแลต จึงเหมาะสำหรับผูป่วยเบาหวาน

 

ข้อควรระวังเมื่อบริโภค FOS (Fructo Oligosaccharides) 

 


          การบริโภค FOS มากเกินไปถึง 20 กรัม/วัน อาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการ ท้องอืด ผายลมบ่อยและปวดท้องได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นไฟเบอร์ แต่ไม่ส่งผลอันตรายต่อชีวิต และแนะนำให้ดื่มน้ำตามเยอะๆ หลังจากรับประทาน FOS เพื่อลดอาการท้องอืด 

 

สรุป


          FOS หรือ ฟรุกโต โอลิโกแซคคาไรด์ (fructo-oligosaccharide) เป็นพรีไบโอติกหรือไฟเบอร์จากธรรมชาติ มีรสชาติหวาน ละลายน้ำได้ จึงมักถูกใช้เป็นสารทดแทนความหวานในอุตสาหกรรมอาหาร นอกจากนี้ FOS ยังมีคุณสมบัติเป็นไฟเบอร์ เมื่อรับประทานเข้าไป ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ แต่จะถูกนำไปเป็นอาหารของจุลินทรีย์ในลำไส้แทน โดยมีประโยชน์ช่วยเพิ่มปริมาณและกระตุ้นการทำงานของจุลินทรีย์ชนิดดีได้ ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายดีขึ้น และลดความเสี่ยงการติดเชื้อแบคทีเรียไม่ดีก่อโรคต่างๆ ที่เข้ามาได้ ในปัจจุบัน FOS ถูกใช้อย่างแพร่หลายในวงการอาหารเสริม เนื่องจากมีความปลอดภัย เป็นไฟเบอร์จากธรรมชาติ ดีต่อสุขภาพ ดังนั้น FOS จึงได้รับความสนใจกับคนจำนวนมาก ที่ต้องการรักษาสุขภาพของตนเอง โดยรูปแบบอาหารเสริมที่มักนำมาใช้คือ รูปแบบชงดื่ม แคปซูลหรือเจลลี่

 

Derma Health โรงงานผลิตอาหารเสริมแบบครบวงจร ควบคุมการผลิตโดยเภสัชกรและทีมนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเสริมโดยเฉพาะ รวมถึงนวัตกรรมเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตที่ทันสมัย ประสิทธิภาพสูง การันตีคุณภาพ และมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล ในทุกขั้นตอนการผลิต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้