Coenzyme Q10 ประโยชน์ที่มากกว่าการบำรุงผิวได้จริงหรือไม่ ?

Last updated: 23 พ.ย. 2565 | 44812 จำนวนผู้เข้าชม |

หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ Coenzyme Q10 หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า โคคิวเท็น หรือ Ubiquinone Ubidecarenone ว่าเป็นสารอาหารที่สำคัญ มีประโยชน์ และจำเป็นต่อร่างกาย แต่อาจจะยังไม่รู้ใช่ไหม ว่าจริง ๆแล้ว Coenzyme Q10 มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างไร ใครที่ควรกินเพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง และควรกิน Coenzyme Q10 ในปริมาณที่เท่าไหร่ ร่างกายถึงจะดูดซึมได้และเอาประโยชน์ไปใช้ได้มากที่สุด

บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Coenzyme Q10 ไม่ว่าจะเป็น Coenzyme Q10 มีสรรพคุณอะไรบ้าง กลไกการออกฤทธิ์ CoQ10 ควรกินตอนไหน ควรกินในปริมาณเท่าไหร่ ใครที่ควรทาน Coenzyme Q10 รวมไปถึงข้อควรระวังในการทาน ทุกอย่างที่คุณสงสัยกับ Coenzyme Q10 รวมไว้ที่นี่หมดแล้ว

Coenzyme Q10 คืออะไร ?

Coenzyme Q10 หรือ โคเอนไซม์ คิวเทน หรือที่หลายคนเรียกว่า คิวเท็น CoQ10 คือ สารที่เสริมสร้างกระบวนการทำงานของเอนไซม์ในร่างกายหลายชนิด ช่วยให้เนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
โดยที่ Coenzyme Q10 เป็นวิตามินชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ในเซลล์ทั่วไปของร่างกาย ซึ่งสามารถพบได้มากในอวัยวะที่ต้องการพลังงานสูง เช่น สมอง หัวใจ ตับ กล้ามเนื้อ นอกจากนี้ Coenzyme Q10 มักใช้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจล้มเหลว หัวใจวาย พาร์กินสัน และโรคทางจิตเวช เป็นต้น

ร่างกายของเราสามารถสร้าง Coenzyme Q10 ส่วนหนึ่งจากกระบวนการสังเคราะห์ไขมันคอเลสเตอรอลที่ตับ และได้รับจากอาหารที่ทาน ซึ่งอาหารที่มี Coenzyme Q10 ได้แก่ ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรอ เนื้อสัตว์ น้ำมันคาโนลา และถั่วเปลือกแข็ง

ประโยชน์และสรรพคุณของ Coenzyme Q10

Coenzyme Q10 ช่วยเรื่องอะไร ทำไมถึงควรทาน CoQ10 ? สำหรับหลายคนที่สงสัย คำตอบของคำถามที่คุณสงสัยอยู่ข้างล่างนี้แล้ว

Coenzyme Q10 กับสมอง

สรรพคุณของ CoQ10 สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการความจำเสื่อม ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ และโรคพาร์กิน จัดอยู่ในกลุ่มที่ต้องการปริมาณโคเอนไซม์ คิวเทนมาก เพื่อให้สมองและเซลล์สมองสามารถทำงานได้ปกติ จากการศึกษาพบว่าถ้าหากมีปริมาณ Coenzyme Q10 ที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายจะช่วยให้อาการดีขึ้นได้

Coenzyme Q10 กับหลอดเลือดและระบบหัวใจ

จากการศึกษาพบว่า Coenzyme Q10 สามารถสร้างพลังงานให้เซลล์ในร่างกายช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานได้ดีขึ้น และช่วยลดความดันโลหิตในผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงลง จึงนิยมนำคิวเทนมาใช้รักษาผู้ป่วยโรคหัวใจ นอกจากนี้ Coenzyme Q10 ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ต่าง ๆ ทั่วทั้งร่างกายได้อีกด้วย

Coenzyme Q10 กับการลดผลข้างเคียงของยา

ในยาลดไขมันคอเลสเตอรอลในกลุ่มสแตตินสามารถทำให้ปริมาณ Coenzyme Q10 ในร่างกายลดลง และส่งผลให้กล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง ปวดกล้ามเนื้อ และอาจจะรุนแรงถึงขั้นมีผลกระทบต่อหัวใจได้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากปริมาณ Coenzyme Q10 ในร่างกายไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นการทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคิวเทนจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้

นอกจากประโยชน์ที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว Coenzyme Q10 ยังมีความสามารถช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดความเหนื่อยล้า อ่อนเพลียเรื้อรัง ป้องกันอันตรายที่เกิดจากรังสี UV ลดภาวะเหงือกอักเสบ รวมไปถึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบนผิวได้

Coenzyme Q10 ใครสามารถทานได้บ้าง ?

หลังจากที่ได้รู้ประโยชน์และสรรพคุณของ Coenzyme Q10 ไปแล้ว หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วใคร ที่ควรกิน CoQ10 ?

ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ และผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน เนื่องจากร่างกายของผู้ป่วยทั้งสองโรคจะผลิต Coenzyme Q10 ได้น้อยลง
ผู้ที่ใช้ยาลดไขมันคอเลสเตอรอลในกลุ่มสแตติน เพราะตัวยาจะทำให้ปริมาณคิวเทนในร่างกายลดลง
ผู้ที่มีภาวะอ่อนเพลียเรื้อรัง
ผู้ป่วยโรคหัวใจที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ เนื่องจาก Coenzyme Q10 มีสรรพคุณในการเพิ่มประสิทธิภาพและกระตุ้นการทำงานของเซลล์ในอวัยวะต่างๆ
ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างเกราะป้องกันให้กับร่างกาย ให้ห่างไกลจากภาวะการทำงานสมองผิดปกติ

ปริมาณที่เหมาะสมในการทาน Coenzyme Q10 ควรกินวันละกี่มิลลิกรัม ?

CoQ10 ควรกินวันละกี่มิลลิกรัม? ปริมาณที่เหมาะสมในการทาน Coenzyme Q10 ของแต่ละคนจะแตกต่างกัน ตามจุดประสงค์ในการใช้อาหารเสริมดังกล่าว ดังนี้

ผู้ที่ต้องการ Coenzyme Q10 เพื่อป้องกันโรคจากความเสื่อมต่างๆ ที่มีสาเหตุมาจากอายุที่มากขึ้น หรือ ผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบ ควรทานครั้งละ 50 mg วันละ 2 ครั้ง
ผู้ที่ใช้ยาลดไขมันคลอเลสเตอรอลกลุ่มสแตติน ควรทาน Coenzyme Q10 ครั้งละ 50 mg วันละ 2 ครั้ง
ผู้ที่ใช้ยาลดไขมันคลอเลสเตอรอลกลุ่มสแตตินที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง และ โรคเบาหวาน ควรทาน Coenzyme Q10 ครั้งละ 100 mg วันละ 2 ครั้ง
ผู้ที่มีอาการอ่อนเพลียเรื้อรังและเป็นโรคความดันโลหิตสูง ควรทาน Coenzyme Q10 ทานครั้งละ 50 mg วันละ 2 ครั้ง
ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน โรคหัวใจ และโรคอัลไซเมอร์ ควรทาน Coenzyme Q10 ครั้งละ 50 mg วันละ 2 ครั้ง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อรับประทาน Coenzyme Q10

แม้ว่า Coenzyme Q10 เป็นสารที่ไม่อันตรายและให้ผลข้างเคียงที่ค่อนข้างน้อย แต่ถ้าหากบริโภคเกินขนาดก็สามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงได้เช่นเดียวกัน โดยผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น ได้แก่

ปวดท้องส่วนบน
ท้องร่วง
คลื่นไส้ อาเจียน
รู้สึกกระหายน้ำ
ไม่อยากอาหาร
วิงเวียนศีรษะ

ภาวะที่ทำให้ปริมาณCoenzyme Q10 ลดลง

แม้ว่า Coenzyme Q10 จะเป็นสารที่ร่างกายของมนุษย์สามารถผลิตขึ้นมาได้เอง แต่เมื่ออายุมากกว่า20 ปีขึ้นไป ร่างกายก็จะผลิต Coenzyme Q10 ได้น้อยลง นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดภาวะโคเอนไซม์ คิวเทน Coenzyme Q10 ลดลง ไม่ว่าจะเป็น การใช้ยาลดไขมันคอเลสเตอรอลในกลุ่มสแตติน ภาวะที่ร่างกายมีความเครียด ทำงานหนัก ออกกำลังกายมากเกินไป และพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งการที่ร่างกายเกิดภาวะ Coenzyme Q10 ลดลงจะส่งผลกระทบต่อสมองและหัวใจมากที่สุด เพราะเป็นกล้ามเนื้อที่จำเป็นต้องใช้พลังงานมาก ส่งผลให้รู้สึกอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือเป็นตะคริว นอกจากนี้การที่ร่างกายขาดโคเอนไซม์ คิวเทน จะทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาได้

Coenzyme Q10 ควรกินตอนไหนถึงจะดี

Coenzyme Q10 ควรกินตอนไหนถึงจะดีที่สุด? สำหรับผู้ที่ต้องการทานโคเอนไซม์ คิวเทน แนะนำให้ทานหลังมื้ออาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบในมื้ออาหาร เนื่องจาก Coenzyme Q10 ละลายได้ดีในไขมันและจำเป็นต้องใช้ไขมันช่วยในการละลายและดูดซึมไปใช้ประโยชน์

การทาน Coenzyme Q10 หลังมื้ออาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบจึงช่วยให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่าการทานในระหว่างที่ท้องว่าง

กลไกการออกฤทธิ์ของ Coenzyme Q10

กลไกการออกฤทธิ์ของ Coenzyme Q10 จะออกฤทธิ์โดยยับยั้งกระบวนการที่ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัว (Atherosclerosis) ช่วยลดความข้นหนืดของเลือด และช่วยลดปริมาณสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ (Proinflammatory cytokines) ทำให้ Coenzyme Q10 สามารถใช้ประโยชน์กับผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางสมอง ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ และผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวได้

การเก็บรักษา Coenzyme Q10

สำหรับผู้ที่ทาน Coenzyme Q10 ในรูปแบบผลิตอาหารเสริม เพื่อบำรุงและเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ไม่อ่อนเพลีย สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้เพื่อเก็บรักษายาให้มีคุณภาพยาวนานมากขึ้น

ให้เก็บยาที่อุณหภูมิห้องไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส
เก็บยาในภาชนะบรรจุเดิมที่มาตั้งแต่แรก
หลีกเลี่ยงการเก็บยาในสถานที่เปียกชื้น
ควรเก็บไว้ให้ไกลมือเด็กเล็ก

ข้อควรระวังในการรับประทาน Coenzyme Q10

แม้ว่า Coenzyme Q10 จะสามารถใช้รักษาผู้ป่วยโรคหัวใจได้ แต่ยังมีข้อควรระวังในการใช้งานอยู่บ้าง ได้แก่

กรณีใช้ยาเพื่อรักษาควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เท่านั้น
ผู้ที่อยู่ในขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่ หากต้องการที่จะทาน Coenzyme Q10 เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทาน เพื่อปลอดภัยทั้งแม่และทารกในครรภ์

Coenzyme Q10 ในอาหารอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

อย่างที่ได้พูดไปก่อนหน้านี้ว่า Coenzyme Q10 เป็นวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้กระบวนการต่าง ๆ ในเซลล์ทำงานได้อย่างปกติ ถึงแม้ร่างกายของมนุษย์สามารถผลิต Coenzyme Q10 ได้เอง แต่เมื่ออายุมากขึ้นปริมาณโคเอนไซม์ คิวเทน ที่ร่างกายก็ลดลง ทำให้หลายคนจำเป็นต้องทานอาหารที่มี Coenzyme Q10 เช่น เครื่องในไก่ เนื้อวัว เนื้อไก่ ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า แซลมอน บรอกโคลี และถั่วเปลือกแข็ง เป็นต้น

ทั้งนี้การทานอาหารถ้าอยากได้ปริมาณ Coenzyme Q10 ที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อาจจะต้องทานในปริมาณมาก เพราะปริมาณ Coenzyme Q10 มีค่อนข้างน้อย ทำให้หลายคนเลือกที่จะทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีโคเอนไซม์ คิวเทน เป็นส่วนประกอบหลัก เพื่อให้ได้สารอาหารดังกล่าวในปริมาณตามที่ร่างกายต้องการ

ตัวอย่าง Coenzyme Q10 ในอาหารเสริมประเภทต่าง ๆ

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ทำให้หลายคนหันกลับมาดูแลสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น สำหรับคนที่ต้องการทาน Coenzyme Q10 เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้กลับมาแข็งแรง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Pre & Pro Biotics Shot อาหารเสริมในรูปแบบผงกรอกปากจะตอบโจทย์มาก เพราะมี Micronize CoQ10 โมเลกุลขนาดเล็กที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นที่ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย รู้สึกเมื่อยล้า ช่วยให้ร่างกายกลับมามีเรี่ยวแรง

มี Premium Quinoa Extract วิตามินบีจากธรรมชาติช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาทและสมองด้วย

สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง เราบริษัท Derma Health มีโรงงานผลิตอาหารเสริมที่ได้มาตรฐาน เราสามารถผลิตอาหารเสริมได้ทุกรูปแบบ และยังมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตอาหารเสริมคอยให้คำแนะนำทุกขั้นตอน สามารถติดต่อเพื่อปรึกษาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับเราได้ที่ช่องทางต่อไปนี้