Last updated: 23 พ.ย. 2565 | 1572 จำนวนผู้เข้าชม |
ในสังคมปัจจุบันผู้คนให้ความสนใจกับการดูแลผิวพรรณของตนเองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ส่งผลให้ท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจนจำนวนมาก และมีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น คอลลาเจนกรอกปาก คอลลาเจนแบบชง คอลลาเจนแบบเม็ด เป็นต้น ด้วยคอลลาเจนที่ผลิตออกมามากและมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก ทำให้หลาย ๆ คนสงสัยว่า คอลลาเจนช่วยในเรื่องอะไรบ้าง หรือการกินคอลลาเจนช่วยบำรุงผิวจริงหรือไม่? ในบทความนี้เราจะพามาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ “คอลลาเจน” บำรุงผิวสร้างผิวสวยจริงไหม? กินคอลลาเจนให้ได้ผลต้องกินอย่างไร? เราจะมาอธิบายอย่างละเอียดกันเลย
คอลลาเจน (Collagen) คือโปรตีนชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยหน่วยย่อยที่เป็นกรดอะมิโน โดยคอลลาเจนจะถูกสร้างขึ้นเมื่อผลิตภัณฑ์จากโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ปลา หรือนม ที่รับประทานเข้าไปถูกย่อยสลายจนแตกตัว และก่อตัวขึ้นใหม่เป็นโปรตีนในลักษณะอื่น ๆ เช่น โปรตีนที่ช่วยในกระบวนการรักษาแผล ซ่อมแซมกล้ามเนื้อหรือก็คือคอลลาเจนนั่นเอง คอลลาเจนสามารถพบได้ตามกระดูก กระดูกอ่อน รวมถึงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย มีคุณสมบัติเสริมสร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง
คอลลาเจนจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเนื้อเยื่อต่าง ๆ เช่น คอลลาเจนบํารุงกระดูก เส้นเอ็น เอ็น ผิวหนัง ฟัน และโครงสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอื่น ๆ รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นและป้องกันอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย ช่วยให้อวัยวะทุกส่วนมีเนื้อเยื่อที่มั่นคง และคอลลาเจนยังช่วยรักษาความสมบูรณ์ของโครงสร้างและเชื่อมโครงสร้างอวัยวะต่าง ๆ เข้าด้วยกัน
ในด้านผิวพรรณ คอลลาเจนของคนเราจะอยู่ใต้ผิวหนังชั้นหนังแท้ ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อ เสริมความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวตึงกระชับ เรียบเนียน ชุ่มชื้น นอกจากนี้คอลลาเจนยังทำงานร่วมกับโปรตีนอีกชนิดหนึ่งนั่นคืออิลาสติน โดยคอลลาเจนจะทำหน้าที่เสมือนโครงสร้างของผิวและทำให้ผิวเต่งตึง ขณะที่อิลาสตินคือช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว ไม่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอย
คอลลาเจนประเภทที่ 1 (Type I) พบมากถึง 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย ช่วยในการเสริมความยืดหยุ่น การสมานแผล สามารถพบได้ในผิวหนัง เส้นผม กระดูก เนื้อเยื่อ และผนังหลอดเลือด
คอลลาเจนประเภทที่ 2 (Type II) คอลลาเจนชนิดนี้พบมากในกระดูกอ่อน และข้อต่อ เช่น ส่วนประกอบของหู จมูก หลอดลม และกระดูกซี่โครง ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์ของเซลล์ให้มีจำนวนมากขึ้น เพื่อลดอัตราการเสื่อมของกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ
คอลลาเจนประเภทที่ 3 (Type III) เป็นชนิดที่มักพบในผิวหนัง กล้ามเนื้อ ผนังหลอดเลือด และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในร่างกาย
คอลลาเจนประเภทที่ 4 (Type IV) พบมากในบริเวณเนื้อเยื่อที่หุ้มกล้ามเนื้อและไขมัน ช่วยการทำงานของระบบประสาทและเส้นเลือด
คอลลาเจนประเภทที่ 5 (Type V) เป็นองค์ประกอบของเยื่อบุเซลล์ต่าง ๆ พบในผิวของเซลล์ และเส้นผม
กินโปรตีนต่อวันให้เพียงพอ
อย่างที่ทราบกันว่าคอลลาเจนคอลลาเจนคือโปรตีนชนิดหนึ่ง การรับประทานโปรตีนต่อวันให้เพียงพอก็จะช่วยสร้างคอลลาเจนได้ เนื่องจากร่างกายจะย่อยเป็นกรดอะมิโนเพื่อนำไปสร้างเป็นคอลลาเจนเพื่อเสริมสร้างสภาพผิว ข้อเข่า หรือมวลกระดูกนั่นเอง
รับประทานอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามิน
การรับประทานอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามิน เช่น วิตามิน C วิตามิน A วิตามิน E จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยดูดซึมคอลลาเจนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อวัน วันละ 8-10 แก้ว หรือ 2 ลิตร จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกาย หากดื่มน้ำไม่เพียงพอการสร้างคอลลาเจนก็จะลดลงไปด้วย
เลือกรูปแบบการกินคอลลาเจนให้เหมาะสม
วิธีเลือกรูปแบบการกินคอลลาเจนให้เหมาะสมเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้การกินอาหารเสริมคอลลาเจนเกิดประโยชน์ การเลือกคอลลาเจนแบบผงหรือแบบน้ำจะมีคุณสมบัติดูดซึมเร็วกว่าชนิดเม็ด และการกินคอลลาเจนไดเปปไทด์ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้งานได้อย่างรวดเร็วมากกว่าคอลลาเจนรูปแบบอื่น ๆ
รับประทานในปริมาณที่พอดี
การรับประทานคอลลาเจนในปริมาณที่พอดี ควรรับประทานตามฉลากที่ระบุไว้บนผลิตภัณฑ์และไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานเกินไป เพราะอาจเกิดอันตรายได้หากรับประทานเกินขนาด โดยปริมาณคอลลาเจนที่ควรรับประทานต่อวันคือ 5-7 กรัม หรือ 5,000-7,000 มิลลิกรัม
ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
สิ่งสำคัญในการรับประทานคอลลาเจนให้เกิดประโยชน์ เราต้องใส่ใจกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วย ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนให้เพียงพอ หรือการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ก็จะช่วยให้การกินคอลลาเจนได้ผลดียิ่งขึ้น หากเรามีความเครียด สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงได้รับรังสี UV จากแสงแดดบ่อย ๆ สิ่งเหล่านี้จะเป็นปัจจัยให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพหรือถูกทำลายได้ง่าย
คอลลาเจนควรกินเวลาไหน? การกินคอลลาเจนผิวใสให้ได้ผลมากที่สุด ควรเลือกช่วงเวลาที่ท้องว่างหรือหลังรับประทานอาหารไปแล้ว 3-4 ชั่วโมง เนื่องจากร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงเวลาท้องว่าง และไม่ถูกกรดในกระเพาะทำลาย
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจนผิว Gluta Placenta Collagen ชนิดชงดื่ม ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ Collagen HACP คอลลาเจนหน่วยเล็กที่สุดจะช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกแก่ผิว และมอบความกระจ่างใสด้วยสารสกัดจาก Strawberry สีขาวที่ช่วยปรับสภาพผิวให้เปล่งปลั่ง รวมถึงสารสกัดจากมะเขือเทศสีทองจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ช่วยลดการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดชงดื่ม Acerola Collagen ด้วยสารสกัดจากอะเซโรลาเชอร์รี่ ที่จะช่วยเผยผิวกระจ่างใส อุดมไปด้วยสารสกัดจาก Collagen HACP ซึ่งเป็น Collagen หน่วยเล็กที่สุด ทำให้ดูดซึมได้อย่างล้ำลึกเพื่อให้ผิวเกิดความกระชับ นุ่ม น่าสัมผัส และกระจ่างใส ผสานด้วยกลูต้าไธโอนที่สกัดจากยีสต์ ประเทศญี่ปุ่น ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน เผยผิวกระจ่างใส เรียบเนียนและดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน รวมทั้งยังช่วยลดริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ และต้านสารอนุมูลอิสระ
เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายของคนเราจะสร้างคอลลาเจนน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีอายุ 40 ปีขึ้นไป ดังนั้นเราจึงต้องรับประทานอาหารที่ช่วยสร้างคอลลาเจนใหม่ เพื่อเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว โดยการกินคอลลาเจนที่เหมาะกับวัย 40 ปีขึ้นไป มีวิธีรับประทานคอลลาเจนบำรุงผิวดังนี้
ต้องกินโปรตีนควบคู่กับการกินคอลลาเจน
คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง นักวิจัยพบว่าหากกินโปรตีนไม่เพียงพอปริมาณคอลลาเจนในผิวก็จะลดลง ดังนั้นเราจึงควรรับประทานโปรตีนให้เพียงควบคู่ไปกับการทานคอลลาเจนด้วย
รับประทานวิตามินที่ช่วยชะลอการสลายของคอลลาเจน
จากการวิจัยพบว่า การรับประทาน วิตามิน C วิตามิน E และวิตามิน A จะช่วยชะลอการสลายตัวของคอลลาเจนได้ หากรับประทานคอลลาเจนควบคู่ไปกับวิตามินและโปรตีนให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน ก็จะช่วยเสริมสร้างผิวพรรณของเราให้ดียิ่งขึ้น
โดยได้ทำการวิจัยในผู้หญิงวัย 35-65 ปี ให้กินคอลลาเจนชนิดนี้ประมาณ 2.5 กรัมต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลา 4-8 สัปดาห์ พบว่าผิวมีความยืดหยุ่นขึ้น ริ้วรอยรอบดวงตาจางลง 7%-20% การรับประทานคอลลาเจนชนิดนี้จึงสามารถไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังขึ้นมาใหม่ได้
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดชงดื่ม คอลลาเจนเปปไทด์ 100% จากประเทศญี่ปุ่น โมเลกุลเล็กกว่าคอลลาเจนธรรมชาติถึง 1,000 เท่า สกัดจากปลาน้ำจืด ผู้ที่แพ้อาหารทะเลสามารถรับประทานได้ ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี สามารถดูดซึมเข้าร่างกายได้ง่าย ช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึง ชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย ผิวเรียบเนียนใส รูขุมขนเล็กลง กระดูกแข็งแรง ผิวพรรณดูสุขภาพดี โดยคอลลาเจนชนิดผงชงดื่มจะดูดซึมได้ดีกว่าแบบเม็ด
ปริมาณคอลลาเจนที่ร่างกายต้องการต่อวันจะอยู่ที่ 5-7 กรัม หรือ 5,000-7,000 มิลลิกรัม หากรับประทานมากเกินไปอาจส่งผลอันตรายต่อร่างกาย
คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี มีวิธีเลือกอย่างไรบ้าง? การพิจารณาเลือกดูองค์ประกอบของคอลลาเจน มีดังนี้
นอกจากนี้การเลือกรูปแบบผลิตภัณฑ์คอลลาเจนยังมีผลต่อการดูดซึม โดยคอลลาเจนชงดื่ม หรือคอลลาเจนแบบผงจะดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนเม็ด ทั้งนี้การเลือกรูปแบบการกินขึ้นอยู่กับความสะดวกและความชอบของแต่ละบุคคลด้วย
ตามธรรมชาติของร่างกายคนเรา เมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้นร่างกายจะมีการผลิตคอลลาเจนน้อยลง ในช่วงอายุ 20 ปี ผิวหนังเราจะประกอบไปด้วยคอลลาเจนประมาณ 75% แต่เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายจะค่อยๆ สูญเสียคอลลาเจนไปถึงปีละ 1.5% โดยเฉพาะคนที่มีอายุมากกว่า 30 ปี พบว่ามีการสังเคราะห์คอลลาเจนลดลง ส่งผลให้การเชื่อมต่อของเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ อ่อนแอลง หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังมีริ้วรอย เหี่ยวย่น และขาดความยืดหยุ่น
อายุกับการเสื่อมของคอลลาเจน
ไฮโดรไลซ์คอลลาเจน (Hydrolyzed Collagen) คือ คอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการย่อยมาบางส่วนแล้ว สามารถย่อยสลายได้ง่าย ดูดซึมได้ดี ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ มีความปลอดภัยและไม่มีพิษต่อ Cell-line ในปัจจุบันนิยมนำไฮโดรไลซ์คอลลาเจนทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดรับประทาน เมื่อรับประทานไปแล้วระดับคอลลาเจนก็เพิ่มอัตราการดูดซึมในกระแสเลือดหากเทียบกับคอลลาเจนแบบดั้งเดิม (Native collagen) และมีคุณสมบัติในการพัฒนาผิวพรรณ เช่น เพิ่มความยืดหยุ่น ผิวเนียนนุ่ม กระชับขึ้น รวมถึงช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังชั้นนอก
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดชงดื่ม Peach Collagen จะช่วยบำรุง ฟื้นฟูสมองให้นอนหลับสนิทตลอดคืน อุดมไปด้วยสารสกัดที่ช่วยลดความเครียด ช่วยให้สมองผ่อนคลาย เพิ่มสมาธิ ลดอาการเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก และช่วยดูแลดวงตาจากการใช้งานอย่างหนัก ด้วยสารสกัดจาก Hydrolyzed Collagen Tripeptide ที่ผ่านการย่อยด้วยกรดจนได้ขนาดอนุภาคที่เล็กที่สุด L-Theanine, Acetyl-L- carnitine และผลไม้ตระกูลเบอร์รี
โรงงานผลิตคอลลาเจน Derma Health เรารับผลิตอาหารเสริมคอลลาเจนเพื่อสุขภาพทุกประเภท ทั้ง OEM และ ODM รวมถึงรับผลิตคอลลาเจนทุกรูปแบบ ทั้งแบบผงชงดื่ม แบบเม็ด แบบแคปซูล แบบเจลลี่ เป็นต้น และเรายังมีบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การคิดค้น วิจัย พัฒนาสูตรโดยเภสัชกรและทีมนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ใช้สารสกัดจากนวัตกรรมใหม่ ไม่ซ้ำแบบใคร นอกจากนี้เรายังรับบริการออกแบบโลโก้ ฉลากสินค้า ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ รวมถึงมีทีมปรึกษาด้านกลยุทธ์ทางการตลาดอีกด้วย
ให้บริษัทรับผลิตอาหารเสริมคอลลาเจน Derma Health เป็นหนึ่งในทางเลือกการสร้างแบรนด์อาหารเสริมที่ดี มีคุณภาพสำหรับคุณ
“เราจะอยู่เคียงข้างคุณ ตั้งแต่เริ่มต้น จนคุณเป็นเจ้าของธุรกิจอาหารเสริมคอลลาเจนอย่างสมบูรณ์แบบ”
หากสนใจผลิตอาหารเสริมคอลลาเจน เรามีทีมพร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการผลิตอาหารเสริมคอลลาเจนสร้างแบรนด์ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
10 พ.ย. 2565
17 มี.ค. 2566